งานประชุมวิชาการ 19th CISTM 2025

27 May 2025

คณาจารย์ แพทย์ประจำบ้าน และพยาบาลจากคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว เข้าร่วมประชุมวิชาการนานาชาติด้าน Travel Medicine ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ระหว่างวันที่ 11–15 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 คณาจารย์ แพทย์ประจำบ้าน และพยาบาลจากคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เข้าร่วมการประชุมวิชาการนานาชาติ “The 19th Conference of the International Society of Travel Medicine (CISTM19)” ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรม Hilton Riverside เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยการประชุมครั้งนี้ถือเป็นเวทีที่ใหญ่ที่สุดในแวดวงเวชศาสตร์การเดินทาง ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุก 2 ปี

ในปีนี้ มีผู้แทนจากประเทศไทยเข้าร่วมทั้งหมด 13 คน จากหลากหลายสถาบัน ได้แก่ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข

การบรรยายในฐานะวิทยากร (Invited Speakers)

คณาจารย์จากคณะเวชศาสตร์เขตร้อนได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรในหลายหัวข้อ โดยถ่ายทอดประสบการณ์และองค์ความรู้จากประเทศไทยสู่เวทีนานาชาติ ดังนี้:

  • รศ. นพ.วัชรพงศ์ ปิยภาณี ร่วมกับ Dr. German Henostroza จาก University of Alabama นำเสนอกรณีศึกษาใน session “Cases from Two TropMed Schools”
  • ผศ. นพ.วศิน แมตสี่ บรรยายในหัวข้อผลกระทบของความร้อนและมลพิษทางอากาศต่อสุขภาพนักเดินทาง ใน symposium “Man in the Mirror: Promoting Responsible International Travel” ซึ่งมุ่งเน้นการเดินทางอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
  • . พญ. พิมพ์พรรณ พิสุทธิ์ศาล ร่วมอภิปรายใน panel discussion “Bon Appétit! Street Food: Demon or Foe?” โดยเน้นการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ street food ในเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักเดินทางทั่วโลก ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน แอฟริกา และอเมริกาใต้

การนำเสนอผลงานวิจัย (Research Presentations)

นอกเหนือจากการเป็นวิทยากรแล้ว คณาจารย์ แพทย์ประจำบ้าน และพยาบาล ยังได้ร่วมแสดงผลงานวิชาการทั้งในรูปแบบ Oral Presentation และ Poster Presentation สะท้อนถึงความก้าวหน้าทางวิชาการของประเทศไทยในเวทีระดับโลก

Oral Presentations (3 เรื่อง):

  1. “Breathing in Thailand: Impact of PM2.5 Related Symptoms in Short-Term International Travelers in Thailand”
    โดย รศ. นพ.อมรพัฐ กิจโร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  2. “5-Year Food Safety Regulations and Surveillance in Bangkok, Thailand – With Real World Data”
    โดย พญ.นริศรา เตชวัชรา แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 2
  3. “Prevalence of Health Problems Related to Marine Tourism among Thai and International Travellers in the Andaman Coastal Provinces of Southern Thailand”
    โดย นพ.วิทัศน์ ทิพยวงศ์ แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 2 สังกัดกระทรวงสาธารณสุข

Poster Presentations (6 เรื่อง):

  1. “Exploring the prevalence of food allergies in international travelers and common allergens: a scoping review” โดย อ. นพ. มนัสวิน อ่อนหวาน คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรจน์
  2. “Acetazolamide Testing Approach for Travelers to High Altitude with Self-Reported Sulfa Allergy”
    โดย นพ.ธรรมธัช วีรมโนมัย แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 2
  3. “Needs, Attitudes, and Factors Influencing Medical Tourism in Thailand Among International Travelers”
    โดย นพ.ชนะชัย พลพิทักษ์ชัย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  4. “A Retrospective Cross-Sectional Study of Pre-travel Preparation and Factors Associated with Illnesses among Foreign Travelers at Koh Lanta, Thailand”
    โดย นพ.พัฒน์ ฉันทภิญญา แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 2 สังกัดกระทรวงสาธารณสุข
  5. “Increasing Trend of Teleconsultations and Nurse’s Role at Thai Travel Clinic”
    โดย คุณอารยา ภูเด่นผา พยาบาลประจำคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว
  6. “Evaluating HTD Smart Vaccine: An AI-Based System for Vaccine Verification at the Thai Travel Clinic, Hospital for Tropical Disease, Bangkok, Thailand” โดย คุณ มาลาตรี เขื่อนควบ พยาบาลประจำคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว

การเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญของประเทศไทยในเวที Travel Medicine ระดับสากล และเป็นโอกาสอันดีในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านวิชาการ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และต่อยอดการพัฒนางานบริการทางการแพทย์ให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นในบริบทของผู้เดินทางทั้งในและต่างประเทศ

cistm
conference

บทความอื่นที่น่าสนใจ

18 November 2024
บทความทั่วไป
พิษจากปลาปักเป้า

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ. มุกดา  ตฤษณานนท์ การเดินทางไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆ นอกจากจะดูภูมิประเทศในแหล่งต่างๆ แล้ว การรับประทานอาหารก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง การรับประทานอาหารอาจมีอันตรายได้ ถ้าเราไม่ระวังและไม่ทราบสิ่งที่เป็นพิษมาก่อน ปลาเป็นอาหารที่น่ารับประทานอย่างหนึ่ง เนื่องจากเป็นอาหารที่ย่อยง่าย มีกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย มีสารอาหารที่สำคัญ แต่ปลาที่เป็นพิษ เช่น ปลาปักเป้า รับประทานแล้วเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ พิษของปลาปักเป้าเป็นพิษที่ทนต่อความร้อน เมื่อถูกความร้อนพิษจะไม่เสียไป ได้มีผู้นำเอาปลาปักเป้ามาขายเป็นจำนวนมากเรียกว่า “ปลาเนื้อไก่” เพราะเนื้อมีลักษณะคล้ายเนื้อไก่ ราคามไม่แพงเห็นแล้วน่ารับประทาน แต่ที่จริงเป็นพิษ ปลาปักเป้า หรือ Puffer fish เป็นปลาที่หาได้ในน้ำจืดและน้ำเค็ม พบได้ทั่วประเทศที่มีอากาศร้อนอบอุ่น ในประเทศไทยพบปลาปักเป้าน้ำจืดได้ตามแหล่งน้าต่าง ๆ เช่น ตามหนอง คลอง บึง ส่วนปลาปักเป้าหนามทุเรียน เป็นปลาปักเป้าทะเล พบได้ในอ่าวไทย ตามปกติ ปลาปักเป้าจะมีสภาพเหมือนปลาทั่วไป มีหนามสั้นหรือยาวแล้วแต่ชนิด หากถูกรบกวนจะพองตัวโตขึ้น มีรูปร่างคล้ายลูกโป่ง หรือ ลูกบอลลูน ปลาปักเป้าทะเลเป็นที่รู้จักันดี สำหรับชาวประมง ถ้าพบเห็นบนเรือลากอวน เขามักจะทำลายมันทิ้งหรือโยนกลับลงไปในทะเลในญี่ปุ่นเรียกปลาชนิดนี้ว่า “Fuge” ชาวญี่ปุ่นชอบรับประทานแต่ต้องมีการเตรียมโดยผู้ที่มีความชำนาญเฉพาะเป็นพิเศษ จึงจะไม่มีพิษ พิษของปลาปักเป้ามีชื่อว่า […]

ปลาปักเป้า
อ่านเพิ่มเติม
18 November 2024
คำถามที่ถามบ่อยเกี่ยวกับโรคมาลาเรีย

ข้อมูลจาก: แผ่นพับให้ความรู้ประชาชน โดยคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล โรคมาลาเรียคืออะไร       โรคมาลาเรียเป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่ง ติดจากยุงมาสู่คน โดยเชื้อมาลาเรียในมนุษย์มีทั้งหมด 4 ชนิดคือ Plasmodium falciparum, Plasmodium vivax, Plasmodium malariae    และ  Plasmodium ovalae โรคมาลาเรียพบบ่อยแค่ไหน และพบในส่วนไหนของประเทศไทย        โรคมาลาเรียพบในประเทศเขตร้อน และเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญ องค์การอนามัยโรคประมาณกันว่าในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยเป็นมาลาเรียถึงปีละ 300-400 ล้านคนทั่วโลก และมีคนเสียชีวิตปีละประมาณ 1 ล้านคน โดยส่วนใหญ่เกิดในทวีปแอฟริกา          ส่วนในประเทศไทยเองสามารถพบเชื้อมาลาเรียได้ในเขตป่า โดยเฉพาะตามเขตชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านเช่น ชายแดนไทย-พม่า ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจังหวัดที่มีการรายงานพบผู้ป่วยมาลาเรียเป็นจำนวนมากคือ จังหวัดตาก กาญจนบุรี ตราด ราชบุรี แม่ฮ่องสอน เป็นต้น โดยจะพบในเขตพื้นที่ที่เป็นป่าเขาเท่านั้น  ไม่พบมาลาเรียในเขตเมือง โรคมาลาเรียติดต่ออย่างไร          โดยปกติแล้วคนสามารถติดเชื้อมาลาเรียโดยการถูกยุงก้นปล่อง (Anopheles)กัด โดยยุงจะปล่อยเชื้อมาลาเรียเข้าร่างกายคน หลังจากนั้นจะมีการแบ่งตัวมากขึ้นทำให้เกิดอาการของโรคมาลาเรียได้ และ เมื่อมียุงก้นปล่องมากัดคนที่เป็นมาลาเรียจะสามารถนำเชื้อแพร่ไปสู่คนอื่นได้อีก           เนื่องจากเชื้อมาลาเรียอยู่ในกระแสเลือดของผู้ป่วย ดังนั้นจึงมีรายงานการติดเชื้อมาลาเรียโดยการได้รับเลือด โดยการใช้เข็มฉีดยาหรือกระบอกฉีดยาร่วมกัน อาการของโรคมาลาเรียเป็นอย่างไร           โดยปกติแล้วผู้ป่วยมักจะเริ่มมีอาการภายหลังได้รับเชื้อแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ถึง 2 เดือน โดยอาการของผูป่วยคือจะมีไข้สูง หนาวสั่น เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว บางรายมีการบวดท้อง […]

มาลาเรีย
ยุง
เขตร้อน
โรคติดเชื้อ
อ่านเพิ่มเติม
18 November 2024
บทความทั่วไป
งูเห่า

โดย  ศ.นพ.มุกดา  ตฤษณานนท์      การเดินทางท่องเที่ยวตามป่าเขาและทุ่งนา  อาจพบกับพวกงูบางชนิด  ซึ่งเป็นงูมีพิษ  และอาจทำอันตรายถึงแก่ชีวิตได้  ดังจะได้กล่าวต่อไป      งูเห่าเป็นสัตว์ที่มีพิษ  ซึ่งมีผลต่อประสาท  พบได้ทั่วไปในประเทศไทย  งูเห่าจะแผ่แม่เบี้ยเห็นชัดเจน   ที่หัวมีดอกจันท์  บางชนิดอาจจะไม่มีการก็ได้  ลำตัวสีค่อนข้างดำ  งูโดยมากมักจะหนี  ไม่ใช่จะกัดเราง่าย ๆ นอกจากจะไปเหยียบตัวงูเข้า  หรืองูตกใจ  ส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกกัดมักจะไปเหยียบ  งูจะฉกกัดทันทีอย่างรวดเร็ว  บางทีเรามองไม่เห็นงูด้วยซ้ำไป  งูมักจะอยู่ในที่มืด เช่น ตามใต้ท่อนไม้ซึ่งผุ  ตามใต้ก้อนหินหรือหลบอยู่ตามพงหญ้า  ตามทุ่งนาเป็นต้น  งูมีพิษจะมีเขี้ยว 2  เขี้ยว  เมื่อฉกกัดจะเห็นเป็นรอยเขี้ยวเป็นรู 2 รู  มีเลือดออกซิบ ๆ มีอาการเจ็บ  เสียวแปลบ  ปวดมากพอสมควร  ผู้ถูกกัดจะรู้สึกทันที     ถ้าถูกกัดด้วยงูเห่าซึ่งมีตัวใหญ่  และปล่อยพิษเข้าไปมาก  จะเกิดอาการภายใน  20  นาที  อาการจะเริ่มต้นด้วยมีอาการงงที่ศรีษะ, ปวดเมื่อย  ต่อไปมีอาการหนังตาตก ลืมตาไม่ขึ้น  […]

งู
ปฐมพยาบาล
อ่านเพิ่มเติม